รีวิว / วีดีโอ / บทความ

ดีและล้ำที่สุดตอนนี้? - Nothing Ear (Open)

 

 

มาใหม่แบบสด ๆ ร้อน  ๆ กับหูฟังไร้สายรุ่นล่าสุด Nothing Ear (Open) ที่มาแบบ Open-Ear พร้อมดีไซน์สุดล้ำทั้งตัวหูฟัง และเคส ออกแบบให้สวมใส่ได้สบายที่สุด ตัวหูคล้องจะมีลวดนิกเกิล-ไทเทเนียมที่ทำให้ทั้งยืดหยุ่นสูง พร้อมหุ้มด้วยซิลิโคนช่วยให้สวมใส่ได้สบายมากยิ่งขึ้นครับ

Nothing Ear (Open) จะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.3 ที่รองรับ Codec SBC, AAC โดยแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงครับ และมาพร้อมกับมาตรฐานการป้องกันน้ำ ป้องกันฝุ่น IP54 จึงสามารถนำไปออกกำลังกายได้สบาย ๆ จ้า

ภายในจะใช้ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 14.2 มม. พร้อมด้วยไดอะแฟรมแบบพิเศษที่ทางแบรนด์ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีฟังก์ชัน Bass Boost ที่จะใช้อัลกอริทึมในการวิเคราะห์และยกระดับเสียงย่านความถี่ต่ำในเพลงของโดยอัตโนมัติ และสามารถปรับแต่ง EQ หรือตั้งค่าต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ผ่านแอป Nothing X และที่สำคัญคือ สามารถแชร์ EQ ให้ผู้อื่น หรือใช้งาน EQ ของผู้อื่นได้ด้วยจ้าครับ

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Nothing Ear (Open) นั่นก็คือ ไมโครโฟนนั่นเอง โดยรุ่นนี้จะให้ไมโครโฟนข้างละ 1 ตัวที่มีระบบ AI ช่วยตัดเสียง ซึ่งตัว AI เองสามารถจำลองสถานการณ์สภาพแวดล้อมของเสียงได้มากถึง 28 ล้านรูปแบบเลยทีเดียว จึงมั่นใจได้ว่าเสียงสนทนาของเราจะชัดเจนแน่นอนจ้า

สำหรับแนวเสียงต้องบอกว่า ถ้าไม่ปรับ EQ ใด ๆ เลย จะเหมาะกับท่านที่ชอบเสียงโทนโปร่งที่เน้นความคมชัด เสียงย่านสูงมีความคมชัดมาก ทอดตัวดี มีให้รายละเอียดที่ดีเยี่ยม มวลเบสปานกลาง พอฟังสนุก เหมาะกับเพลงที่เน้นเสียงร้อง เครื่องดนตรีไม่เยอะ ฟังสบาย ๆ

แต่ถ้าท่านใดได้ลองปรับ EQ แล้ว เหมือนได้หูฟังอีกตัวเลยครับ โดยเฉพาะปรับย่านเบส จะให้อิมแพ็คที่แน่นขึ้น เสียงกลางเข้มข้นขึ้น ฟัง Rock, Metal ได้สบาย ๆ เลยจ้า นับว่าเป็นอีกลูกเล่นสุดเจ๋งจริง ๆ จากหูฟัง Nothing Ear (Open) จ้า ๆๆ



ข่าวสารอื่น ๆ