รีวิว อุปกรณ์ค้นหาสิ่งของ Apple AirTag

AirTag คือวิธีที่ง่ายสุดๆ ในการติดตามข้าวของของคุณ
แค่ติดชิ้นหนึ่งไว้กับกุญแจ แล้วใส่อีกชิ้นไว้ในกระเป๋าเป้
เพียงเท่านี้ ทุกชิ้นก็จะไปอยู่บนเรดาร์ของคุณในแอปค้นหาของฉัน ซึ่งนั่นคือที่ที่คุณสามารถติดตามอุปกรณ์ Apple ของคุณ รวมถึงเพื่อนๆ และครอบครัวได้อีกด้วย

เสียงมา หาเจอ
แล้ววันนี้การวางของผิดที่ผิดทางอย่างกระเป๋าสตางค์ ก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไปเมื่อมี AirTag ติดไว้ เพราะคุณสามารถสั่งให้ลำโพงในตัวเล่นเสียงได้ โดยไปที่แถบ "สิ่งของ" ใหม่ ในแอปค้นหาของฉัน หรือแค่พูดว่า "หวัดดี Siri หากระเป๋าสตางค์ให้หน่อย" แล้วถ้าของชิ้นนั้นแอบซ่อนอยู่ใกล้ๆ อย่างใต้โซฟาหรืออยู่ห้องข้างๆ คุณก็ตามเสียงนั้นไปได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาหา

ใกล้ ใกล้แล้ว
เกือบแล้ว
เจอแล้ว
ถ้าหากว่า AirTag ของคุณอยู่ใกล้ๆ แล้วละก็ iPhone จะสามารถพาคุณไปยังจุดนั้นได้อย่างแม่นยำด้วยคุณสมบัติ "ตำแหน่งที่ตั้งจริง"1 โดยคุณจะเห็นระยะทางและทิศทางที่ต้องไปโดยทั้งหมดนี้อาศัยเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์

คุณสมบัติ "ตำแหน่งที่ตั้งจริง" สามารถใช้งานร่วมกับ:
iPhone 11
iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
iPhone 12 และ iPhone 12 mini
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max

รับความช่วยเหลือ
จากเพื่อนร่วมโลกนับล้าน
เมื่อคุณลืมอะไรทิ้งไว้ไกลตัว อย่างที่ชายหาดหรือที่ยิม เครือข่ายค้นหาของฉันซึ่งประกอบด้วย iPhone, iPad
และ Mac หลายร้อยล้านเครื่องทั่วโลก ก็จะช่วยติดตาม AirTag ของคุณให้ และยังออกแบบมา
เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณในทุกย่างก้าวอีกด้วย

ทำงานยังไงน่ะเหรอ
AirTag ของคุณจะส่งสัญญาณ Bluetooth ที่ปลอดภัยออกมาเพื่อให้อุปกรณ์ในเครือข่ายค้นหาของฉันที่อยู่ใกล้ๆ ตรวจจับได้ แล้วอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะส่งตำแหน่ง AirTag ของคุณไปยัง iCloud จากนั้นเพียงแค่คุณไปที่แอปค้นหาของฉัน ก็จะเห็นตำแหน่งนั้นบนแผนที่ โดยกระบวนการทั้งหมดนี้จะเป็นแบบไม่เปิดเผยตัวตนและได้รับการเข้ารหัสเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ
อีกทั้งยังประหยัดพลังงาน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่หรือปริมาณข้อมูลที่ใช้เลย

โหมดสูญหาย ช่วยให้การหาของง่ายขึ้นอีก
คุณสามารถตั้ง AirTag ให้เข้าสู่โหมดสูญหาย ได้เหมือนกับอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ทีนี้เมื่ออุปกรณ์ในเครือข่ายตรวจเจอ AirTag คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ และคุณยังสามารถตั้งค่าให้คนอื่นเรียกดูข้อมูลการติดต่อของคุณได้โดยการนำ AirTag ไปแตะกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้จ่ายค่าต่างๆ ด้วยโทรศัพท์

ความเป็นส่วนตัวที่มีในตัว
มีเพียงคุณเท่านั้นที่เห็นว่า AirTag ของคุณอยู่ที่ไหน ซึ่งข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งและประวัติของคุณจะไม่ถูกจัดเก็บไว้ใน AirTag เช่นเดียวกับอุปกรณ์ที่ช่วยส่งต่อตำแหน่งของ AirTag ก็จะไม่เปิดเผยตัวตนเช่นกัน โดยมีการเข้ารหัสข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งในทุกขั้นตอน จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครรู้ตำแหน่งของ AirTag หรือตัวตนของอุปกรณ์ที่ช่วยค้นหาอย่างแน่นอน แม้แต่ Apple เอง

AirTag ออกแบบมาให้มีการป้องกันการติดตามที่ไม่พึงประสงค์ ถ้าเกิดมี AirTag ของใครติดไปกับข้าวของของคุณ iPhone ของคุณจะรู้และแจ้งเตือนให้คุณทราบว่ามี AirTag กำลังเดินทางไปพร้อมคุณ แล้วหลังจากนั้นสักพักถ้าคุณยังหาไม่เจอ AirTag ก็จะเริ่มส่งเสียงดังเพื่อบอกให้คุณรู้ว่าอยู่ตรงไหน

แต่ถ้าเกิดว่าคุณกำลังอยู่กับเพื่อนที่มี AirTag หรืออยู่บนรถไฟพร้อมกับหลายๆ คนที่มี AirTag ก็ไม่ต้องห่วง เพราะการแจ้งเตือนจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อ AirTag แยกกับเจ้าของเท่านั้น

ง่ายๆ สวยๆ
แตะครั้งเดียวเพื่อตั้งค่า แล้ว AirTag ของคุณก็จะเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ iPad ของคุณในทันที จากนั้นก็ตั้งชื่อให้กับ AirTag แล้วนำไปติดเข้ากับสิ่งที่คุณอยากติดตาม แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย หรือถ้าอยากรับการแจ้งเตือนจาก AirTag บน Apple Watch ด้วย ก็ไม่มีปัญหา

 


อุปกรณ์ภายในกล่อง

คะแนนรีวิว

0 / 5

คะแนน

(ทั้งหมด 0 รายการ)
(0)
(0)
(0)
(0)
(0)

รีวิวจากลูกค้า

เรียงจาก

ถาม - ตอบทีมงาน



สินค้าใกล้เคียง