สวัสดีทุกท่านด้วยนะครับ อยู่กับกระผม “วิน” จากสาขาสยามพารากอนกันอีกครั้งนะครับ สำหรับรอบนี้ผมจะมาขอรีวิวอีกหนึ่งในตระกูล JBL Quantum ที่เราคุ้นเคยกัน ครั้งนี้อาจจะแปลกกว่าเพื่อนหน่อยนั่นก็คือลำโพง Active Speaker “JBL Quantum Duo” ซึ่งมาพร้อมกับระบบ Surround Sound ด้วยจะเป็นยังไงบ้างตามผมมาได้เลย

เริ่มกันที่ตัวกล่องกันเลยนะครับ จะเห็นได้ว่าด้านหน้าของตัวกล่อง “JBL Quantum Duo” นั้นจะมี Logo ของระบบเสียง Dolby Audio และ ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ได้อีกด้วย ส่วนด้านหลังนั้นก็ได้บอกสเปค และ จุดเด่นของเจ้า “JBL Quantum Duo” ไว้นั่นเอง

 

 

        สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องก็จะมี

-  สาย Power ของลำโพงความยาว 1.5 m. จำนวน 4 เส้น
-  สาย AUX 3.5 – 3.5 mm. ความยาว 1.5 m. จำนวน 1 เส้น
-  สาย USB Type A – Micro B ความยาว 1.5 m. จำนวน 1 เส้น
-  คู่มือการใช้งาน

มาดูกันที่เนื้องานของ “JBL Quantum Duo” กันบ้าง บอดี้จะเป็นพลาสติกแข็งทั้งตัว มีการเล่นลวดลาย เพื่อให้แสงไฟ RGB รอดออกมาตามตัวของลำโพง ช่วยเพิ่มความสวยงามน่าใช้งานมากๆ เมื่อรวมลำโพงทั้ง 2 ข้างแล้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.8 kg. และ มีขนาดที่ถือว่าไม่ได้ใหญ่จนเกินไป สามารถจัดวางบนโต๊ะได้อย่างสบาย ๆ

ด้านหลังของตัวลำโพงข้างขวานะครับ จะเป็นช่องเชื่อมต่อสายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่อง Power หลัก, ช่องเชื่อมต่อสาย USB Micro B, ช่องเสียบ AUX 3.5 mm. และก็สายเชื่อมกับลำโพงข้างซ้ายครับ ส่วนลำโพงข้างซ้ายก็จะมีแค่ช่อง USB Type C สำหรับเชื่อมต่อกับลำโพงข้างขวา โดยการแยกลำโพง ซ้าย ขวา นั้นให้เราสังเกตที่ฐานของตัวลำโพงนะครับ จะมีการเขียน Left Right ไว้นั้นเอง

 

ในส่วนของ Driver ลำโพงจะมีขนาด Tweeter อยู่ที่ 0.75 นิ้ว และ Woofer อยู่ที่ 2.5 นิ้ว มาพร้อมกำลังขับของตัวลำโพงอยู่ที่ 20 W ครับผม

 

 

ในส่วนของปุ่มควบคุมทั้งหมดจะอยู่ฝั่งขวามือนะครับ นั้นหมายความว่า  Power หลักจะอยู่ที่ข้างขวานั้นเอง  เริ่มกันที่ปุ่ม  Volume control กันก่อนเลยนะครับ อยู่บริเวณตรงกลางด้านล่างของตัวลำโพง  ด้านซ้ายจะเป็นปุ่มปรับ Surround Sound  ซึ่งเวลาเปิดใช้งานจะมีไฟสีขาวขึ้นมา ช่วยบอกว่าเรากำลังใช้งานอยู่นั้นเอง

ด้านขวาจะเป็นปุ่มปรับระดับไฟของตัวลำโพงนะครับ สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน  และด้านล่างสุดจะมีช่องเสียบหูฟัง  AUX 3.5 mm. อยู่ด้วยครับ มาดูที่ด้านบนกันบ้าง เริ่มจากปุ่ม  Power เปิด – ปิด ตัวลำโพงอยู่ด้านขวาสุด  ปุ่มตรงกลางจะเป็นปุ่มการเชื่อมต่อผ่านระบบ  Bluetooth ปุ่มซ้ายสุดจะเป็นปุ่มปรับ Profile ของไฟ RGB ซึ่งมีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 แบบครับ และ ปุ่มบนสุดจะเป็นปุ่มปรับสีของแสงไฟ RGB ซึ่งมีให้เลือกถึง 14 สีเลยล่ะครับ

 

 

เรื่องของการเชื่อมต่อของ “JBL Quantum Duo” นั้นก็ถือว่าทำได้หลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็น สาย AUX 3.5 mm. สาย USB หรือจะเป็น Bluetooth ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ ซึ่งจะเป็น Bluetooth 4.2 และยังสามารถเชื่อมต่อหูฟังผ่านช่องแจ็ค AUX 3.5 mm. ที่ด้านหน้าของตัวลำโพงได้อีกด้วยครับ

ในการเชื่อมต่อผ่านสาย USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นตัว Volume จะอ้างอิงจากโปรแกรมที่เราใช้งานอยู่เป็นหลัก หมายความว่าถ้าใช้งานโปรแกรมอยู่ แล้วเราเปิดโปรแกรมใหม่ขึ้นมา Volume อาจจะมีอาการลั่นได้นะครับ ซึ่งอาการนี้จะไม่เกิดขึ้นกับการเชื่อมต่อผ่านสาย AUX 3.5 mm. หรือ Bluetooth ครับ

สำหรับการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth นั้นให้เราทำการกดปุ่ม Bluetooth ที่ตัวลำโพงได้เลยนะครับ ตัวลำโพงจะเข้าสู่โหมด Pairing ให้ทันที แล้วให้เราเลือกเชื่อมต่อ Bluetooth ชื่อว่า “JBL Quantum Duo” ได้เลยครับ

 

Software JBL Quantum Engine ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เอาไว้ใช้ควบคู่กับหูฟังเกมซีรีส์ Quantum ทางเว็บไซต์ของ JBL เองก็ได้ออกมาตอบคำถามนี้แล้วนะครับ ว่าลำโพง “JBL Quantum Duo” นั้นจะไม่รองรับตัว Software JBL Quantum Engine เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องตกใจนะครับถ้าเกิดว่าเปิด Software ขึ้นมาแล้วหาตัวลำโพงไม่เจอ

 

มาพูดคุยกันถึงเรื่องแนวเสียงกันบ้างนะครับ โดยผมจะขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ การดูหนัง และ การเล่นเกมส์ ระหว่างเปิดระบบ Surround Sound และ ปิด ส่วนที่สองจะเป็นการฟังเพลงระหว่างเปิด Surround Sound และ ปิด เช่นกันนะครับ  มาเริ่มกันที่ การดูหนัง และ การเล่นเกมส์ กันเลยนะครับ โดยที่ระหว่างปิดโหมด Surround Sound อยู่นั้น จะให้ไดนามิคเสียงพวกแรงปะทะ เสียงระเบิด อยู่ในระดับที่ดีเลยล่ะครับ สามารถแยกตำแหน่งเสียงซ้าย ขวา ได้อย่างชัดเจน แต่ว่ามิติด้านลึกอาจจะแบนลาบไปสักหน่อย 

แต่เมื่อเราเปิดโหมด Surround Sound แล้วจะให้มิติเสียงที่กว้างขึ้นอย่างมาก สามารถเก็บบรรยากาศรอบๆ ได้อย่างสมจริง แต่ว่าไดนามิคของเสียงก็ลดลงเล็กน้อยครับ  ในส่วนของการฟังเพลงนั้นระหว่างปิด Surround Sound อยู่จะให้เสียงเบสที่มีความกระชับ เก็บตัวได้เร็ว อิมแพคแรง ขนาดของมวลเบสไม่ใหญ่มาก ค่อยคุมจังหวะของเพลงได้ดีมากๆ เสียงร้องออกไปในโทนที่หนาเล็กน้อย ตำแหน่งของนักร้องจะอยู่นำหน้าชิ้นดนตรีเล็กน้อยครับ เสียงกลางแหลมนั้นสามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน เป็นธรรมชาติ เสียงปลายแหลมสามารถทอดตัวได้ไกล แต่ว่ามีลักษณะหัวมล ฟังสบาย เวทีเสียงมีขนาดกลางออกไปทางกว้าง สามารถแยกทิศทางเสียงได้อย่างแม่นยำ โดยที่จะมีช่องว่างระหว่างเครื่องดนตรีที่ชัดเจน ไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างใด 

แต่เมื่อเราเปิด Surround Sound แล้ว สิ่งที่สังเกตได้เลยนั้นก็คือ ย่านเสียงเบสที่มีขนาดมวลที่เล็กลง แต่ว่ายังให้อิมแพคที่แรงอยู่ เสียงร้องนั้นมีความใสเคลียร์ขึ้น แต่ว่าตำแหน่งของนักร้องจะอยู่ระดับเดียวกับชิ้นดนตรี เสียงกลางแหลมนั้นก็ยังสามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเสียงปลายแหลมนั้นสามารถทอดตัวได้ไกลขึ้น และเป็นประกายแต่ว่าไม่บาดหูครับ ส่วนเวทีเสียงนั้นเปิดโล่ง ฟังสบาย ตำแหน่งของชิ้นดนตรีนั้นแยกออกกันอย่างชัดเจน ไม่มีการทับซ้อนกันอย่างแน่นอนครับ

 

สำหรับลำโพง “JBL Quantum Duo” นั้นต้องบอกว่าเป็นลำโพงแบบ Active Speaker 2.0 Channel ที่สเปคนั้นครบครันมากๆ ตัวหนึ่งเลยล่ะครับ ไม่ว่าคุณจะนำไปเชื่อมต่อผ่านสาย USB, AUX 3.5 mm. หรือว่าจะเป็น Bluetooth นั้นก็สามารถรองรับได้ทุกอุปกรณ์ อีกทั้งยังมีโหมด Surround Sound ให้เราได้ใช้งานสำหรับการดูหนังอีกด้วย ช่วยเพิ่มอรรถรสได้ดีมากๆ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับขวัญใจเกมเมอร์อย่างเราๆ นั้นก็คือระบบไฟ RGB ที่มีมาให้เราเลือกปรับได้ตามใจชอบเลยล่ะครับ 

ในส่วนของค่าตัวเจ้า “JBL Quantum Duo” นั้นจะอยู่ที่ 6,990 บาท นะครับผม  ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิวลำโพง Active Speaker อย่าง “JBL Quantum Duo” ในครั้งหน้าจะเป็นหูฟัง หรือว่า จะเป็นลำโพงแบบไหนก็รอติดตามรับชมกันได้เลยนะครับผม สำหรับวันนี้ผมคงต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ...