สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งกับผม ฟิวส์ มั่นคงแก็ดเจ็ดสาขาพาราไดซ์ หลังจากที่ผมไม่ได้รีวิวลำโพงมาสักระยะหนึ่งแล้ว วันนี้ผมขอนำลำโพงรุ่นใหม่จากแบรนด์ JBL ที่แค่เห็นก็สะดุดตา อยากหยิบมาพูดรีวิวให้ฟังกับลำโพงที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของสีสัน ความสดใสและคุณภาพเสียงอัดแน่นมาในตัวเดียวกัน จะเป็นตัวไหนนั้นตามไปชมกันเลยครับ

จากที่เกริ่นนำไปก่อนแล้วว่าลำโพงตัวนี้มาพร้อมกับสีสันและแสงสว่าง หลายท่านคงจะพอนึกออกแล้วคงจะเป็นลำโพงตัวไหนไปไม่ได้นอกจาก JBL PULSE 4 ลำโพงพกพารุ่นใหม่ที่ทาง JBL การันตีว่ามาพร้อมคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น พร้อมกับสามารถโชว์สีสันให้เห็นกันแบบ 360 องศาแบบเต็มๆส่วนมาเริ่มจากการเปิดกล่อง JBL PULSE กันครับ

หน้ากล่อง JBL PULSE 4 แพ็คเก็จด้านหน้าจะเป็นกล่องสีขาวมีอยู่รูปตัวลำโพงให้เห็นชัดเจน บริเวณด้านล่างของกล่องมีเครื่องหมายบลูทูธและแสดงจำนวนชั่วโมงในการใช้งานของตัวลำโพงไว้ที่ 12 ชั่วโมง

กล่องด้านซ้ายโชว์ฟังชั่น JBL PartyBoots ส่วนล่างของกล่องโชว์หน้าตาของแอพพลิเคชั่น ในหมวดการปรับแสงสีของตัวลำโพง

กล่องด้านขวา มีประโยคภาษาอังกฤษว่า Dare to listen พร้อมกับรูปงานสังสรรค์ซึ่งจะสื่อความหมายว่า กล้าและพร้อมที่จะสนุกไปกับทุกประสบการณ์ใหม่ๆ กับทุกความสนุกทุกจังหวะของชีวิต

กล่องด้านหลัง มีรูปลำโพงพร้อมจับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของรุ่นนี้ " Sound You can see " ซึ่งบ่งบอกความหมายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวลำโพงรุ่นนี้ "เสียงที่สามารถมองเห็น"  เพราะนอกจากคุณจะได้ยินเสียงเพลงแล้ว คุณยังเห็นแสงสีและจังหวะของเสียงผ่านแสงสีของตัวลำโพงนั่นเอง  ด้านล่างของตัวกล่องยังมีไอคอนต่าง ๆ รวมถึงคำอธิบาย เป็นการย้ำถึงชั่วโมงการใช้งาน การแสดงผลสีการแสดงผลสีและเสียงแบบ 360 องศา มาตรฐานกันน้ำมาตรฐานกันน้ำ IPx7 และฟังก์ชันฟังชั่น PartyBoots

แกะกล่องชมกันด้านในเลยดีกว่าครับ

ภายในกล่องประกอบด้วย

- JBL Pulse 4

- JBL branded Type C cable

- Quick start guide

- Safety sheet

เมื่อเปิดกล่องก็จะพบกับตัวลำโพงทรงกระบอกอยู่ในหีบห่อแน่นหนา มีการบุฟองวัสดุกันกระแทกรอบตัวลำโพง  ด้านข้างตัวลำโพงนั้นจะมีกล่องกระดาษภายในบรรจุ คู่มือ Quick Start Guide อยู่ภายใน พร้อมกับสายชาร์จ USB TYPE C

ข้อมูลจำเพาะ

- Bluetooth version: 4.2

- 20W RMS

- Lithium-ion polymer: 7260mAh

- Battery charge time: 3.5 hours (5V/3A)

- Music playtime: up to 12 hours (ขึ้นอยู่กับแสง,ระดับความสว่าง & ความดังของเสียง)

- Dimensions (W x D x H): 96 x 96 x 207mm

- Weight: 1260g

ในส่วนของการออกแบบลำโพงนั้นเรียกได้ว่าเป็นการยกเครื่องอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด นั้นคือแสงไฟแบบรอบทิศทาง ในครั้งนี้มาพร้อมกับไฟแบบ 360 แบบเต็มส่วนแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน เพราะในรุ่นก่อนจะมีการแบ่งส่วนของลำโพงและระบบการควบคุม ให้อยู่ในส่วนล่างของลำโพงครับ บอกเลยว่าเต็มตาเต็มใจ ที่ไม่ว่าจะเปิดตอนไหนใครผ่านมาเห็นก็ต้องสะดุดตาครับ

ในส่วนของเสียงนั้นตัวลำโพงออกแบบใหม่โดยวางตัวลำโพงในส่วนบนของลำโพง ทำให้ลำโพงให้เสียงแบบ 360 องศาเช่นกันครับผม ในส่วนของเบสจะด้านล่างของตัวลำโพงเป็นลักษณะ bass reflex เบสแน่นถูกใจแน่นอนครับ

การทดสอบเสียง

เพลง Everlasting ศิลปิน Albert Posis เป็นเพลงที่มี intro เริ่มต้นด้วยเสียง Drum Bass และ acoustic เสียงกีต้าร์ สัมผัสได้ถึงเบสที่เก็บตัวได้เร็วขึ้นกว่าลำโพง PULSE ในรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งเสียงร้องที่ดูมีเนื้ออิ่มกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ในจังหวะดนตรีที่เป็นเพลงช้าแบบ R&B เมื่อเปิดพร้อมกับไฟรูปแบบ EQUALISER ก็ทำให้บรรยากาศในการฟังนั้นเพลิดเพลินขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ

เพลง One Night สามศิลปินอย่าง Simon Skylar ,GESES , Kete Wild มาทำเพลง Dance จังหวะสนุกๆ ด้วยเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ที่เปิดมาตั้งแต่ช่วงต้นของเพลง ความสดของดนตรีที่ได้ เสียงร้องที่มีความคมชัด อิมแพ็คเบสเร้าใจ เสียงที่ได้ทำให้รู้สึกถึงความสดใหม่ที่จับต้องได้ของดนตรีในลักษณะนี้ ที่ชวนอยากให้ขยับร่างกายโยกตามจังหวะ

Say So ศิลปิน Doja Cat เป็นเพลงที่ผู้เขียนได้ฟังจากคลิปไวรัล Challenge ซึ่งใช้เพลงนี้เป็นเพลงประกอบการเต้น ด้วยเสียงร้องผสมอิเล็กทรอนิคที่ฟังแล้วมีเอกลักษณ์ คลอเสียงริกแบบกีต้าร์ประกอบกันไป ที่ฟังแล้วติดหู อีกทั้งเสียงเบสเพลงนี้ให้เบสที่มีความลึกและมีจังหวะเพลงที่จัดอยู่เพลงเร็ว ทำให้เห็นได้ชัดถึงพัฒนาการของลำโพงที่ปรับจูนเสียงเบสที่ให้มวลเบสมากกว่าเดิม และลึกกว่ารุ่นก่อนหน้า อีกทั้งยังเก็บตัวได้เร็วขึ้นในระดับหนึ่ง ไม่เร็วจนเกินไปสำหรับเพลงลักษณะนี้ ถือว่าฟังได้สนุกหนึบหนับจนอยากลุกขึ้นมาอัดคลิปเต้นไวรัลเลยหละครับ

เพลงสุดท้ายขอหลุดจากเพลงมีจังหวะมาฟัง Cover Acoustic ครับ โดยจะเป็นเพลงของ Stevie Wonder กับเพลงดังอย่าง Isn't She Lovely ที่นำมาบรรเลงกีต้าร์โดย Sungha Jung ซึ่งเมื่อเปิดฟังแล้ว ให้ความรู้สึกเคลียร์ชัด เด็ดขาด ในทุกเสียงที่บรรเลงผ่านสายกีต้าร์ การตบนิ้วลงบนสาย แล้วกรีดสายลง ให้ความคมชัด เสียงปลายแหลมที่สดพุ่งแต่ไม่เสียด กลิ่นอายของดนตรีสดมีมาให้สัมผัสเป็นช่วงๆ ชวนให้ทึ่งทั้งความสามารถของผู้เล่น และเสียงที่ได้ยินจากลำโพงปาร์ตี้ที่ไม่ได้มีแค่ฟังตุ๊บตั๊บอย่างเดียว จนรู้ตัวอีกที่ก็จบเพลงเสียแล้ว

คุณสมบัติเด่นเดิมที่ยังมีอยู่ และบางอย่างที่ตัดออกไป

คุณสมบัติที่ลำโพงพกพาของ JBL เกือบทุกตัวต้องมีนั่นคือมาตรฐานป้องกันน้ำ ซึ่งJBL PULSE 4 นั้นก็ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถป้องกันน้ำได้ในระดับ IPX7 เหมือนเดิมเพื่อปกป้องลำโพง เช่น บังเอิญทำตกน้ำไม่ลึก นำขึ้นมาจากน้ำทันที เมื่อลำโพงแห้ง ก็จะสามารถกลับมาใช้งาน ให้เสียงได้ตามปกติครับผม 

ในส่วนที่ตัดออกไป อย่างแรกนั้นคือการเชื่อมต่อผ่านช่องอนาล็อกเอาท์ผ่านสาย Aux ในรุ่นถูกตัดออกไป ซึ่งเป็นจุดที่น่าเสียดายเพราะผู้ใช้บางกลุ่มยังมีความต้องการใช้งานในส่วนนี้อยู่ครับ 

อีกส่วนหนึ่งที่ PULSE 4 ตัดออกนั่นคือ ไมค์โครโฟนครับ ซึ่งเป็นข้อสังเกตว่าลำโพงรุ่นใหม่ที่ไม่มีไมค์โครโฟน Built in มาให้ก็จะไม่สามารถใช้คำระบบคำสั่งเสียง และไม่สามารถใช้งานในลักษณะของการ Phone Call ผ่านลำโพงได้อีกต่อไป  ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นจุดข้อสังเกตของการใช้งานบางประเภทเพื่อให้พี่ๆได้เลือกลำโพงไปใช้งานให้เหมาะสม และตรงกับการใช้งานนั่นเองครับผม

สรุป

หากพี่ๆกำลังมองหาลำโพงใช้งานที่เป็นมากกว่าลำโพงธรรมดา กันน้ำได้ ควบคุมใช้งานง่าย เสียงฟังสนุก มีสีสันที่จะทำให้การฟังเพลง หรือปาร์ตี้ของคุณไม่น่าเบื่อและสนุกได้มากขึ้น JBL PULSE 4 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามซึ่งมีให้ทดลองฟังที่ร้านมั่งคงแล้วครับผม หวังอย่างยิ่งว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับทุกท่านที่กำลังจะเลือกซื้อลำโพงซักตัวไปไว้ใช้งาน หรือกำลังมองหาสิ่งที่มากกว่าลำโพงทั่วไปแล้วบังเอิญเข้ามาอ่าน ขอบคุณที่ใช้เวลาด้วยกันจนมาถึงช่วงท้ายนี้ครับ พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ