มาพบกับผม เจตน์ ... เรือธง วันนี้มีหูฟังแบบทรูไวเลสจากค่าย Grado มาให้ชมกันครับ  ซึ่ง  Grado ได้ทำหูฟังมาอย่างยาวนานครับ แบบฟูลไซด์ออนเอียร์รุ่นยอดนิยมอย่าง  SR60 ที่ใครที่เริ่มเล่นหูฟังของค่ายนี้ได้ฟังแล้วโดนใจกันไปหลายคนเลยครับ รวมทั้งผมด้วย  มาวันนี้ได้ทำหูฟังแบบไร้สายซึ่งเป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน นั่นก็คือรุ่น Grado GT220  True Wireless ซึ่งเป็นรุ่นแรกของทาง Grado เลยที่ทำแบบทรูไวเลส มาชมกันเลยครับ

        ตัวกล่องทรงสี่เหลี่ยมโทนพี้นขาวตัดกับอักษรสีดำ GRADO และด้านข้างกล่องเป็นตัว G ดูเรียบสะอาดตา อุปกรณ์ในกล่องจะมีสาย  USB ไว้ชาร์จ และจุกซิลิโคน 3 คู่ ขนาด  S,M,L

       ตัวเคสสีดำวัสดุเป็นพลาสติกคุณภาพน้ำหนักเบา มุมต่างๆของตัวเคส  ออกแบบให้เป็นทรงเรียวเป็นวงรี ทำให้จับถือได้ถนัดมือดีครับ ด้านบนสลักอักษร  GRADO ด้านหลังเคสเป็นช่องชาร์จ USB-Type C

ด้านหน้าเคสจะมีไฟ 4 ดวง แสดงสถานะแบตเตอรี่ดังนี้ครับ

ไฟ 1 ดวง = 25%

ไฟ 2 ดวง = 50%

ไฟ 3 ดวง = 75%

ไฟ 4 ดวง = 100%

สถานะไฟตอนชาร์จ

ตัวหูฟัง : เวลาที่เราใส่หูฟังชาร์จในเคส ไฟที่ตัวหูฟังจะเป็นสีแดงค้าง  ถ้าเต็มไฟจะดับครับ

ตัวเคส : ในขณะที่ชาร์จนั้นไฟสีขาวจะกระพริบ จนกระทั่งชาร์จเต็มแล้ว ไฟ 4 ดวงจะหยุดกระพริบ และจะติดแช่ไว้ให้รู้ว่าเต็มแล้วครับ

        ตัวหูฟังใช้งานได้ 6 ชั่วโมง และชาร์จในเคสได้อีก 5 รอบ รวมเป็น  36  ชั่วโมง  ตัวเคสใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมงเต็มครับ  ใช้งานตลอดวันได้สบาย  ๆ  ไม่ต้องเสียบชาร์จบ่อยๆเลยครับ  และ  ยังรองรับการชาร์จแบบ   Wireless Charge ด้วย  โดยนำเคสไปวางที่แท่นชาร์จไวเลสได้เลย

        มาดูตัวพระเอกของเรากันครับ  ตัวบอดี้หูฟังวัสดุพลาสติกคุณภาพ สลักตัวอักษร G ไว้ทั้งสองข้างและไฟสถานะต่าง ๆ ก็จะแสดงตรงจุดนี้ครับ  ผิวบอดี้จะเรียบพอหยิบจับแล้วจะมีความด้านนิด ๆ  ทำให้เวลาหยิบใช้งานไม่หลุดมือแน่นอน  มุมโค้งการประกอบต่าง ๆ ดูเนี้ยบ เรียบร้อย  เก็บงานได้อย่างพิถีพิถันทีเดียว มั่นใจเรื่องคุณภาพการผลิตได้เลยครับ

การใช้งาน

        การแพริ่ง - เปิดเคสแล้วดึงตัวหูฟังออกมา ไฟหูฟังข้างขวาจะกระพริบแดงสลับกับน้ำเงิน  แล้วเราสามารถเปิดบลูทูธที่มือถือเราแพริ่งได้เลยครับ พอเชื่อมต่อแล้วจะมีเสียงคนพูดว่า Connected พอเรายกเลิกการเชื่อมต่อที่ตัวมือถือ ก็จะมีเสียงพูด  Disconnected แจ้งเตือนสถานะ ซึ่งใช้  BT V 5.0 เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะรองรับ  Codec SBC, AAC, aptX ฟังเพลงได้อย่างเต็มคุณภาพเลยครับ และไม่ว่าจะเป็นสถานะของตัวหูฟังจะเป็น power on, power off, Battery Low  จะมีเสียงพูดแจ้งเตือนด้วย สะดวกมากๆครับ หูฟังจะเชื่อมต่อได้ทีละเครื่องครับ

        *พอเชื่อมต่อแล้วเล่นเพลงสถานะไฟจะเป็นสีน้ำเงินกระพริบเป็นจังหวะ ประมาณ 25 วิ กระพริบทีนึงเพื่อแสดงว่าหูฟังเปิดใช้งานกำลังเชื่อมต่ออยู่ครับ* ในกรณีเชื่อมต่อแล้วปิดเพลงเราถอดหูฟังวางไว้ ไฟสีน้ำเงินจะกระพริบต่อเนื่องแสดงสถานะว่าเปิดสแตนบายไว้ครับ เวลาเก็บใส่เคส หูฟังจะปิดระบบ ไฟจะเป็นสีแดงครับ เราสามารถใช้ทีละข้างได้อีกด้วย  

        โดยข้างที่ไม่ได้ใช้ก็เก็บไว้ในเคสได้เลย กรณีที่หูฟังอยู่นอกเคสไม่ได้ทำการเชื่อมต่อประมาณ 4-5 นาที  ตัวหูฟังจะปิดเองอัตโนมัติครับ และ เราสามารถแตะที่หูฟังข้างซ้ายหรือขวาค้าง 5 วินาที  เพื่อทำการเปิดตัวหูฟัง และแพริ่งให้ครับ  เมื่อทำการแพริ่งเรียบร้อยครั้งต่อไปเราก็เปิดเคสดึงหูฟังออกมาก็จะแพริ่งอุปกรณ์ที่เคยแพริ่งไว้แล้วให้โดยอัตโนมัติครับ

การควบคุมแบบระบบทัชแตะสัมผัส

ควบคุมโดยการแตะที่หูฟังข้างซ้าย

1 ครั้ง = รับสาย,วางสาย

2 ครั้ง = ปฏิเสธการรับสาย

3 ครั้ง = Voice Assistant

        แล้วเราสามารถใช้ข้างเดียว ข้างไหนก็ได้ไว้คุยโทรศัพท์ได้อีกด้วยครับ สนทนาชัดเจนทั้งต้นสายและปลายสายเลยครับ

ควบคุมโดยการแตะที่หูฟังข้างขวา

1 ครั้ง = เล่นเพลง/หยุดเพลง

2 ครั้ง = เลื่อนไปเพลงถัดไป

3 ครั้ง = ย้อนไปเพลงก่อนหน้า

        *การควบคุมขณะเล่นเพลง ขึ้นอยู่กับแอพที่ใช้ว่ารองรับด้วยไหมครับ*

การเพิ่มลดระดับเสียง

แตะข้างซ้ายค้าง = ลดระดับเสียง

แตะข้างขวาค้าง = เพิ่มระดับเสียง

        พอได้ลองเทสระดับการเพิ่มลดเสียงทำได้ละเอียดทีเดียวครับ  และ  พอปรับเพิ่มหรือลดเสียงจนสุดจะมีเสียงสัญญาณดังเตือนว่าถึงลิมิตแล้วสะดวกดีครับ

        *Factory Reset เราสามารถรีเซ็ทโดยที่ตัวหูฟังอยู่ในเคส ให้เราแตะข้างซ้ายหรือขวา 3  ครั้ง ไฟสีม่วงจะกระพริบ 3 ครั้งแล้วดับไป เป็นการเสร็จสิ้นการรีเซ็ทครับ*

แนวเสียง

        พอลองสวมใส่แล้ว ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวผมจะมีปัญหาเรื่องจุกหูฟังครับ  เวลาใส่แล้วไม่กระชับหูต้องคอยขยับตลอด แต่พอได้มาลองตัวหูฟังและจุกของ Grado GT220 แล้ว เค้าออกแบบมาให้บอดี้มีความโค้งเรียวรับกับช่องหู  และ  ตัวท่อไดรเวอร์ที่ยาวขึ้นมาหน่อย ทำให้สามารถใส่เข้าหูได้พอดี  กระชับแน่นไม่หลุด และ  ไม่รู้สึกเจ็บหูอีกด้วยครับ อันนี้ต้องขอชมเลยครับ  มาเทสเสียงกันเลยครับ

        เบส: เบสลูกโตกำลังสวย ไม่ล้นเกินไป มีมวลที่จับต้องได้  และ เก็บตัวได้ดีไม่เอื่อยเฉื่อย  และ  ตำแหน่งของเบสจะเยื้องไปด้านหลังไม่มากวนชิ้นดนตรีอื่ๆ คนที่ชอบฟังเบสแบบพอดิบพอดีนี่ตอบโจทย์เลยครับ

        เสียงกลาง: เสียงร้องมีอิมเมจที่ชัดเจน เป็นเสียงร้องที่มีความสด ปลายเสียงนักร้องให้ความใส รุกเร้า ฟังได้สนุกเพลินดีทีเดียวครับ

        กลางแหลม: เคลียร์ออกโทนสะอาด ปลายแหลมจะหัวมล ไม่จัดจ้านนัก ทำให้ฟังได้นาน ๆ ก็ไม่ล้าหูครับ

        เวทีเสียง: ให้ความโปร่งกว้างปานกลาง ส่วนด้านลึกทำได้ดี  ฟังเพลงแล้วระยะห่างของชิ้นดนตรีต่างๆจะโฟกัสได้อย่างชัดเจน  สัมผัสถึงบรรยากาศโอบล้อมของชิ้นดนตรีต่างๆได้เลยครับ

สรุป

        Grado GT220 เป็นหูฟังทรูไวเลสที่ทาง Grado ทำออกมาได้คุณภาพดีทีเดียวครับ  ทั้งรูปทรงที่สวมใส่ง่ายและการใช้งานแบบทัชได้ไหลลื่นตอบสนองได้ดี  กดรับสายคุยสนทนาได้ยินชัดเจน และที่สำคัญคุณภาพเสียงที่ให้โทนเสียงที่ฟังสนุก  จูนเสียงให้มีสีสันกำลังดี ฟังเพลงได้หลากหลาย แนวร้องแบบ popjazz ก็ฟังเสียงร้องได้เต็มอารมณ์ แนวร่วมสมัยอย่าง Kpop EDM ที่มีเสียงซาวด์สังเคราะห์โฟกัสได้แม่นยำ มีมิติแยกซ้ายขวาได้ดีทีเดียวครับ ส่วนแนว   Rock เก็บรายละเอียดชิ้นดนตรีต่างๆได้กระชับฉับไว ฟังได้เพลิดเพลินเช่นกันครับ   สนนราคาที่ 8490 บาท สามารถมาทดลองฟังกันก่อนได้ที่ร้านมั่นคงทุกสาขาได้เลยครับ