สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับผม อู๋ มั่นคงแก็ดเจ็ทสาขาสยามพารากอน

สำหรับวันนี้ เชิญพบกับรีวิวประจำเดือน กันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลา Low season และยังเป็นหน้าฝนอีกด้วย ทำเอาบรรยากาศในช่วงนี้เรียกได้ว่าทั้งเหงาทั้งซึมกันเลยทีเดียว แต่... อย่าเพิ่งโศกเศร้าไปครับถึงแม้ว่า จะช่วงเวลาจะเป็น Low season ก็จริง แต่ผมกลับมองว่าช่วงเวลานี้นั้นมีเสน่ห์ครับ มันอาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ไปพักผ่อนต่างสถานะที่ ได้เปลี่ยนที่หลับที่นอนบ้าง เพื่อให้ตัวเรานั้นผ่อนคลาย ไปรับธรรมชาติมากขึ้น แล้วด้วยตัวผมเองนั้นจะมี 1 สิ่ง ที่ขาดไปไม่ได้เลยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะพักอย่างไร ก็ต้องมีเสียงดนตรีที่คอยปลอบประโลมทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้เรามีแรงลุกขึ้นสู้ในทุก ๆ วันครับ

และแล้วหลังจากที่เกริ่นมาพอสมควร มาเข้าที่ตัวเรื่องหลักของเรากันดีกว่าครับ ซึ่งสิ่งดี ๆ ที่ผมอยากจะนำมาเสนอในวันนี้ก็คือ ลำโพงพกพาที่สามารถพกพาได้ง่าย และมีชั่วโมงการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้กันน้ำกันฝุ่น พร้อมลุยไปทุก ๆสถานะการณ์ และยิ่งเป็นคนที่ชอบการผจญภัยผมนี่ต้องบอกเลยว่าไม่ควรพลาดครับ

MARSHALL EMBERTON II

เป็นลำโพงพกพาที่มีขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กไปและใหญ่ไป สำหรับใช้งานในปาร์ตี้เล็ก ๆ หรือนั่งชิลคนเดียวก็สบาย ๆ ไปอีกแบบ กับภายในตัวลำโพงที่ประกอบไปด้วย Driver Dynamic กำลัง 10 Watts จำนวน 2 ตัว และ Passive Radiator 2 ตัว รองรับระบบ Stereo รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.1 ที่เชื่อมต่อได้รวดเร็ว เสถียรและยังประหยัดพลังงานเวลาที่ใช้งานอีกด้วย ตัวลำโพงรองรับมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP67 ซึ่งพร้อมลุยไปในทุก ๆ สถานการณ์ และเสน่ห์อีกอย่างของลำโพง Marshall นั่นคือปุ่มควบคุมที่มีชื่อเรียกว่า “Control Knob” ซึ่งเรียกง่าย ๆ ว่า “Joystick” ก็ได้ครับทุกท่านจะได้พอนึกภาพออก ส่วนท่านใดนึกไม่ออกให้นึกถึง Joy Gameplay ก็ได้ครับ หลักการทำงานเหมือนกันเลยโยกขึ้นลงขวาซ้ายและกดปุ่ม

แล้วยังไม่หมดเพียงเท่านี้ตัวลำโพงตัวนี้ยังรองรับระบบ “Stack Mode” อีกด้วยครับซึ่งถ้าเกิดเรามีลำโพงหลาย ๆ ตัวเนี้ย สามารถนำมาเชื่อมต่อกันเป็นชั้นๆ ให้เสียงมันดังและกระจายได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วยนะครับ นอกจากนี้ยังรองรับ Application ที่สามารถปรับแต่ง Pre-Set EQ และตั้งค่าพื้นฐานต่าง ๆ รวมไปถึงการอัพเดท Firmware ในตัวเครื่องแก้ไขปัญหาและ Bug ต่างๆในการใช้งาน  และทำให้ตัวเครื่องนั้นสามารถใช้งานได้เสถียรยิ่งขึ้นครับ ส่วนเรื่องของชั่วโมงการใช้งานนั้น ตามรายละเอียดที่ทาง Marshall เคลมไว้ว่า สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 30 ชั่วโมงขึ้นไปเลยทีเดียว ผมว่า ต่อไปเราไปลงรายละเอียดการใช้งานและส่วนของ Application กันครับ

ฟังก์ชั่นการของการใช้งาน

มาในส่วนของเรื่องการเข้าโหมดจับคู่กันก่อนนะครับ

• ให้ทำการกดปุ่ม Control Knob ที่ตรงกลางเครื่อง เพื่อเป้นการเปิดเครื่องก่อน
  - ให้เราทำการกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ Bluetooth ค้างไว้จนจะมีเสียงแจ้งเตือน
  - ให้ทำการเปิดตั้งค่า Bluetooth ที่มือถือของเราจากนั้นให้เลือกชื่อ “EMBERTON II”

ชั่วโมงการใช้งานและสถานะการชาร์จแบตเตอรี่

สำหรับตัวลำโพงนั้น สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 30+ ชั่วโมง ซึ่งจริงๆแล้วก็อาจจะเกี่ยวกับเรื่องของลักษณะการใช้งานของแต่ล่ะบุคคลซึ่งถ้าเราเปิดระดับเสียงดังเกิน 50% ขึ้นไปก็อาจจะทำให้ชั่วโมงการใช้งานลดลงก็เป็นไปได้

เรื่องการชาร์จแบตเตอรี่

 “ช่องชาร์จจะเป็นช่อง USB-C ผ่านช่องด้านขวาของตัวเครื่อง”

ซึ่งจะใช้ระยะเวลาชาร์จแบตโดยประมาณ 3 ชั่วโมงด้วยกันครับ ถ้าในกรณีแบตเตอรี่เต็มแล้วไฟสถานะจะขึ้นเต็มหลอดครับ

“เราสามารถดูสถานะแบตเตอรี่ได้จากหลอด LED ที่อยู่บริเวณซ้ายมือนั้นเองครับ”

พูดถึงเรื่องของเสียง

เสียงเบส - ให้มวลเบสที่มีขนาดเกินตัวและมีอิมแพ็คแรงปะทะไม่ไร้เรี่ยวแรง ให้จังหวะที่รู้สึกตึกคัก ฟังสนุก และในส่วนของรายละเอียดด้านลึกนั้นยังพอมีให้สัมผัสได้อยู่บ้างครับ

เสียงกลางและเสียงร้อง - ในส่วนขอเสียงร้องนั้นจะมีความติดหนาๆมานิดหน่อยครับและตำแหน่งของเสียงร้องนั้นจะอยู่ห่างออกไป ตามสไตล์ของเสียงแนว ROCK และความคมชัดของเสียงกีตาร์ซึ่งทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ

เสียงแหลม - เป็นเสียงแหลมที่จัดจ้าน คมชัดบาดใจ แต่ไม่น่ารำคาญครับ มีสีสันให้กับดนตรีฟังได้เพลิดเพลินไปอีกแบบครับ ทำให้ฟังง่ายและฟังได้หลากหลายแนว

เวทีเสียง - มีมิติเสียงที่โอมล้อมได้ดีครับ และเวทีเสียงนั้นกว้างในระดับนึงเหมาะสมกับขนาดตัวลำโพง ส่วนตำแหน่งของเสียงร้องนั้นจะอยู่หลังเครื่องดนตรีอยู่เล็กน้อยครับ

สรุป

หากในทริปช่วง Low Season แบบนี้ใครที่กำลังตามหาลำโพงคู่ใจ พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะทำงานหรือไปพักกาย ผมว่าก็ไม่ควรมองข้ามเสียงดนตรีมันช่วยให้เราผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้นและยังสามารถสร้างวงปาร์ตี้เล็กให้กับแก็งวงเพื่อนที่ไปด้วยกันได้อีกด้วยครับ กันน้ำกันฝุ่นขนาดนั้น ใช้งานได้สูงสุด 30 ขนาดนี้และยังแถมพกพาได้ง่ายอีกด้วย เสียงยังดีอีกด้วยใครที่เป็นสาวก Marshall ผมว่าไม่ควรพลาดจริง ๆ ครับ