หูฟังไร้สาย Sennheiser Accentum Wireless หูฟังซีรีส์ใหม่จากทาง Sennheiser ในคราวนี้ตัวหูฟังจะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพกพามาก ๆ มีขนาดที่กะทัดรัด สวมใส่สบาย ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทช่วยให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่ และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้งานได้ข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว!!!

 


 

อุปกรณ์ในกล่อง

 

ใช้งานยาวนานตลอดวัน

หูฟังไร้สาย Sennheiser Accentum Wireless เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพกพาไปใช้นอกบ้านอย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง (ในขณะที่เปิด ANC) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้สะดวกและพอเพียงต่อการใช้งานในขณะที่ต้องเดินทางนาน ๆ ในบางครั้งที่เราต้องเดินทางท่องเที่ยว อาจจะชาร์จเพียงหนึ่งครั้งก่อนไปและไม่จำเป็นต้องชาร์จอีกเลยด้วยชั่วโมงการใช้งานที่ยาวนาน และยังรองรับ Fast Charge ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมง ทำให้ยิ่งสะดวกมากขึ้นไปอีกเพื่อพกพาหูฟังไปข้างนอกที่มีเวลาในการชาร์จไม่มากนั่นเอง

 

เบา...สบาย ใส่ได้ตลอดวัน

นอกจากจะเป็นหูฟังแบบไร้สายที่ทำให้คล่องตัวไม่มีสายมาเกะกะแล้ว ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบครอบหู Sennheiser Accentum ก็ออกแบบมาให้น้ำหนักเบา เพื่อให้เหมาะแก่การพกพา และยิ่งกว่านั้น ยังสามารถใส่สบายได้ตลอดทั้งวัน โดยการคัดเลือกวัสดุ และออกแบบ โดยแถบคาดศีรษะและแพด บุด้วยซิลิโคนที่มีสัมผัสที่นุ่มนวลสามารถปรับให้เข้ากับรูปร่างของศีรษะของผู้สวมใส่ได้อย่างง่ายดาย ทำให้สวมใส่ได้อย่างกระชับ ไม่รู้สึกอึดอัด ครอบคลุมไปทั้งใบหู ไม่มีการกดทับ นุ่มสบายสวมใส่ได้นาน แค่ได้ลองสวมใส่ดูสักครั้งจะรู้สึกว่า ฟีลลิ่งในการสวมใส่นั้น เกินราคาไปมากทีเดียวครับ

 

เสียงที่เป็นเอกลักษณ์...ในแบบ
SENNHEISER

เรื่องเสียงยังคงเป็นสิ่งที่ Sennheiser ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และแน่นอนว่า Sennheiser Accentum เองก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ให้เสียงที่เป็น Sennheiser อย่างชัดเจน โดยตัวหูฟังจะมาพร้อมไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 37 มม. ที่ทาง Sennheiser ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษช่วยให้เสียงเบสที่หนักแน่นชัดเจน และสัมผัสได้ ทุกโน้ต ทุกจังหวะ ทุกอารมณ์ราวกับว่ายืนอยู่กลางเวที

 

" สำเนียงเฉพาะตัว...ในแบบที่คุณชื่นชอบ "

 

นอกจาก Driver ที่เป็น Hardware แล้ว ทางด้าน Software ของ Sennheiser Accentum Wireless ก็มีโหมดเสียงที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษมากมาย ให้เราได้เลือกปรับแต่งทั้งโหมด Bass Boost ที่ช่วยให้เสียงเบสที่นุ่มลึกขึ้น หรือถ้าใครอยากที่จะเน้นเสียงพูดแล้วล่ะก็ สามารถใช้โหมด Podcasts เพื่อเพิ่มเสียงพูดให้คมชัดยิ่งขึ้นได้อีกด้วย โดยสามารถปรับแต่งใน Application ของ Sennheiser อย่างง่าย ๆ และแต่ละ Mode เสียงนั้นก็ให้ความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ให้อารมณ์ที่เหมาะกับรูปแบบการฟังหรือคอนเทนต์นั้น ๆ มากขึ้นไปอีก

 

ตัดเสียงรบกวน และเปิดรับ
อย่างเป็นธรรมชาติ

ในเมื่อถูกวางไว้เป็นหูฟังสำหรับพกพาไปนอกบ้านแบบนี้แล้ว แน่นอนว่าขณะที่ต้องเดินทาง เราก็ต้องอยากดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่ และด้วยฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation ที่มีอยู่ใน Sennheiser Accentum Wireless ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิทไม่รบกวนอรรถรสในการฟังเพลงโปรดของเรา และฟังก์ชัน Transparency หรือ Aware Mode สำหรับรับเสียงจากภายนอกเข้ามาในหูฟังทำให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบ ๆ ตัวอย่างเป็นธรรมชาติได้โดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออก เพื่อความปลอดภัยยามต้องเดินทางบนท้องถนน หรือสถานที่ต่าง ๆ

 

Sennheiser Smart Control

ปรับแต่งเสียงให้เป็นแบบของคุณ ด้วยแอป Sennheiser Smart Control ที่รองรับการปรับแต่งได้ทั้ง EQ, Sound mode, Sound Personalization ที่จะเป็นการปรับแต่งแนวเสียงตามลักษณะการฟัง นอกจากนี้ฟังก์ชั่นที่สามารถปรับลักษณะการฟังตามสถานที่ที่เราตั้งค่าไว้ในกรณีที่ใช้ชีวิตประจำวัน อย่าง Sound Zone ที่สามารถตั้งค่าให้เหมาะกับไลฟ์สตไล์ของผู้ใช้งานในที่ต่าง ๆ และฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ตัวแอปได้ โดยแอป Sennheiser Smart Control นั้น สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ๆ ที่ AppStore ใน iOS และ Google Play Store ใน Android ได้เลยครับ

 

โดยรวมแล้ว หูฟังไร้สาย Sennheiser Accentum เป็นหูฟังที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคปัจจุบัน สะดวกคล่องตัวน้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่ได้นาน รวมถึงระยะเวลาการใช้งานที่นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง ก็ทำให้เข้ากับคอนเซปต์ On-the-go มากยิ่งขึ้นไปอีก และหากใครที่เป็นแฟน Sennheiser ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์แล้วนั้น Sennheiser Accentum ก็เป็นหูฟังไร้สายที่ตอบโจทย์คุณอยู่แน่นอน และโดยเฉพาะราคาที่เบากว่ารุ่น Top อย่าง Sennheiser Momentum 4 Wireless อยู่เกือบครึ่งแล้วก็นับว่า เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวล่ะคร้าบบ! 

 


 

ข้อมูลจำเพาะ

คุณลักษณะภายนอก

รูปแบบการสวมใส่
หูฟังสเตอรีโอแบบก้านคาดศรีษะ

การสัมผัสใบหู
ครอบใบหู

ข้อมูลจำเพาะ Bluetooth®

เวอร์ชั่น Bluetooth®
Bluetooth 5.2, compliant, class 1, 10 mW (max)

ความถี่และโมดูลส่งสัญญาณ
2,402 MHz to 2,480 MHz; GFSK, π/4 DQPSK, 8 DPSK

โปรไฟล์
A2DP, AVRCP, HFP, HSP, GATT

รูปแบบเสียงที่สนับสนุน
SBC, AAC, aptX™, aptX HD™, mSBC, CVSD

คุณสมบัติทั่วไป

ประเภทหูฟัง
แบบปิด, ไดนามิก

ไดรเวอร์ยูนิต
37 มม.

ช่วงความถี่
10 Hz to 22 kHz

ความไว
106 dB SPL (1 kHz / 0 dBFS)

Speaker THD
<0,3% (1 kHz / 100 dB SPL)

หลักการของไมค์
MEMS

ช่องความถี่ไมค์
50 Hz to 8 kHz

รูปแบบตัวรับไมค์
Beamforming 2 ตัวเพื่อตัดเสียงรบกวน

แบตเตอรี่

ระยะเวลาใช้งาน
สูงสุด 50 ชั่วโมง เมื่อเชื่อมต่อกับ Bluetooth และใช้งาน ANC (ทดสอบคู่กับ iPhone ที่ความดังระดับกลาง)

ระยะเวลาชาร์จ
3 ชั่วโมงชาร์จเต็ม 1 ครั้ง, ชาร์จด่วน 10 นาทีใช้ได้นาน 5 ชั่วโมง

ความจุแบตเตอรี่
800 mAh

ประเภทแบตเตอรี่
Built-in Lithium-Ion rechargeable battery 800 mAh 

พาวเวอร์ซัพพลาย
5 V⎓, 700 mA max, USB charging via USB-C socket

แรงดันไฟฟ้า
3.7 V

น้ำหนักและขนาด

น้ำหนักรวม
0,222 kg

ขนาดรวม
Approx. 16,5 x 19,5 x 4,8

 

การรับประกัน

รับประกันศูนย์ไทย บจ.มั่นคงแก็ดเจ็ท 2 ปีจ้าๆๆ

 


 

 

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

  1. แพดหูฟัง
  2. ก้านคาดหัวปรับระดับได้
  3. เอียร์คัพ
  4. ช่องไมโครโฟน (2 ช่อง) สำหรับสนทนา
  5. ไฟ LED บอกสถานะ
  6. ช่องเสียบ USB-C สำหรับชาร์จ, โทรศัพท์, เชื่อมต่อเพื่อฟังผ่าน PC/Mac
  7. ปุ่มเพิ่มเสียง
  8. ปุ่มเล่นเพลง/หยุดเพลง และ รับสาย/วางสาย
  9. ปุ่มลดเสียง
  10. ปุ่มควบคุมหลัก
    • เปิด/ปิด
    • เรียก Voice Assistant
    • กดค้าง 5 วินาที เข้าสู่ Pairing Mode
  11. สัญลักษณ์ R และ L ระบุข้างที่สวมใส่
  12. ไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน (ภายนอก 2 ตัว และภายใน 2 ตัว)



เปิด-ปิด หูฟัง

• กดปุ่มควบคุมหลัก ค้างไว้ 3 วินาที

 

ไฟบอกสถานะ

ขณะใช้งาน

 

ขณะคุยโทรศัพท์

 

ขณะชาร์จไฟ

 


 


อุปกรณ์ภายในกล่อง

หูฟังไร้สาย Sennheiser ACCENTUM สุดยอดหูฟังพกพาราคาเบา

 

 

          Accentum น้องเล็กรุ่นโฉมใหม่ที่ทาง Sennheiser พัฒนามาเพื่อทดแทนในซีรีย์ “HD” ที่เคยออกมาวางจำหน่ายมากมายหลายรุ่น เช่น HD350 BT และ HD458 BT ครับ โดย Accentum นั้นจะมีความสามารถที่มากกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่าและที่สำคัญเสียงถูกจูนมาให้ดียิ่งขึ้นครับ ซึ่งทาง Sennheiser ทำราคามาดีจำหน่ายเพียง “6,990 บาท” ถือว่าไม่หนีจากตอน HD458 BT ออกมาใหม่ ๆ เลยล่ะครับ จะมีความพิเศษและน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นมาดูในรีวิวนี้กันครับ  

 

 

         หูฟังไร้สาย Sennheiser Accentum ได้รับการออกแบบมาให้เป็นหูฟังแบบ Full-Size ที่ครอบได้เต็มใบหูยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับตระกูล HD ที่เคยออกมาก่อนหน้าที่จะเป็นกึ่ง ๆ On-Ear เสียมากกว่า ทางด้านดีไซน์ในรอบนี้จะออกแบบตามหลักสรีระสาสตร์ให้การสวมใส่ที่สบายลดการกดทับรอบใบหู ตัวแพดนั้นนุ่มไม่แข็งกระด้างและคืนตัวได้ไวผสมผสานกับการเลือกใช้ Headband แบบ Silicon-Lined ที่หนาทำให้ลดการกดทับจากด้านบนศีรษะจึงสวมใส่ฟังได้ยาวนานอย่างที่ต้องการเลยล่ะครับ

          *สำหรับคนที่ใส่แว่นอาจจะต้องมาทดลองดูอีกทีนะครับว่าใส่แล้วจะทับขาแว่นขนาดไหนเพราะอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลครับ*

 

 

 

          การควบคุมของ Accentum นั้นจะเป็นแบบปุ่มกดที่อยู่บริเวณด้านขวาโดยจะมีปุ่มสำหรับควบคุมการเล่นเพลงทั้ง เล่น-หยุด / ข้าม-ย้อนเพลง / เพิ่ม-ลดเสียง และมีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่องแยกมาให้ต่างหาก

 

          ซึ่งปุ่ม Power นี้หากกดลงไป 2 ครั้งติดกันจะเป็นการสลับโหมดระหว่าง ANC & Transparency Mode และหากกด 3 ครั้งติดกันก็จะเป็นคีย์ลัดสำหรับการเรียกแอปพลิเคชัน “Smart Control” ขึ้นมาสมาร์ตโฟนทำให้เข้าถึงแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง และยังใช้เป็นปุ่มสำหรับเปิด Pairing ด้วยการกดค้างไว้ 5 วินาทีด้วยเช่นกันครับ 

 

 

 

 

          การใช้งานจริงของระบบ ANC นั้นทำได้ดีทีเดียวครับช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างให้เงียบลงได้มากทีเดียวความมึนหัวถือว่าน้อยหากใครที่ใช้ ANC มาจนคุ้นชินแล้ว Accentum ถือว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใดส่วน Transparency นั้นดูดเสียงรอบตัวเข้ามาได้เป็นธรรมชาติมีเสียงซ่าน้อยไม่น่ารำคาญครับ แต่แอบเสียดายเล็กน้อยตรงที่ในแอปพลิเคชันจะไม่มีให้ปรับระดับความแรงของ ANC และ Transparency ครับ 

 

 

 

 

          ไมโครโฟน ถือว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำได้ดีในรุ่น Accentum ซึ่งหากใครที่ต้องประชุมงานบ่อย ๆ หรืออาจจะใช้งานบ้างแต่ก็อยากให้ได้ไมค์ดี ๆ ไว้ก่อนก็สามารถวางใจในตัวไมค์ Beamforming ของ Accentum ได้ครับ เพราะสามารถรับเสียงพูดได้ดีไม่อุดอู้และช่วยกรองเสียงรอบข้างให้ลดน้อยลงได้ด้วยเช่นกันครับ 

 

 

 

 

          Accentum สามารถใช้งานได้ “2 วิธี” ด้วยกัน โดยวิธีแรกก็จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ครับ โดยจะรองรับเป็น Bluetooth 5.2 มาพร้อม Codec อย่าง SBCAACaptX™aptX HD™ เมื่อฟังผ่าน Bluetooth ตามสเปคจะสามารถเล่นต่อเนื่องได้สูงสุดที่ “50 ชั่วโมง” เงื่อนไขที่ทางแบรนด์ได้ทดสอบมาก็คือ เชื่อมต่อกับ iPhone ที่ Codec AAC เปิดเสียงครึ่งเดียวและเปิด ANC ไปด้วยครับ

 

          วิธีที่สองคือการฟังผ่านสาย USB-C นั่นเอง วิธีนี้อาจจะไม่ได้นิยมมากนักใหม่กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป แต่ก็มีบางกลุ่มที่ฟังผ่าน USB-C เหมือนกันหรือเผื่อในบางกรณีที่นำไปใช้ร่วมกับ PC ที่ไม่มีตัวส่งสัญญาณ Bluetooth หรือใช้กับ Laptop บางรุ่นแล้วส่งสัญญาณออกมาไม่เสถียรก็เลือกที่จะฟังผ่าน USB-C ได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ

 

          โดยเมื่อฟังผ่าน USB นั้นจะได้ความละเอียดระดับ CD Quality (16Bit/48kHz) และสามารถฟังไปชาร์จไปได้ อีกทั้งระหว่างที่ฟังด้วย USB หากต้องโทรศัพท์ผ่าน LINE ก็สามารถใช้ไมโครโฟนได้ด้วย ทำให้สามารถใช้งาน Accentum ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งดูหนัง ฟังเพลง และ โทรศัพท์ผ่าน LINE ด้วย USB เส้นเดียวครับ 

 

 

 

 

          Accentum นั้นยังรองรับการชาร์จไฟอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เมื่อชาร์จไฟ 10 นาที สามารถเล่นต่อเนื่องสูงสุดได้ที่ “5 ชั่วโมง” เลยทีเดียว และหากชาร์จไฟจาก 0-100% จะใช้เวลาไม่เกิน “3 ชั่วโมง” ครับ ซึ่งเมื่อดูจากสเปคของแบตที่ฟังต่อเนื่องสูงสุดได้ที่ 50 ชั่วโมงแล้วนั้นเราไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ข้ามคืนเลยล่ะครับ เพราะชาร์จเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถใช้งานหูฟังได้นานหลายชั่วโมงแล้วล่ะครับ 

 

 

 

 

          Accentum ยังรองรับกับแอปพลิเคชัน “Sennheiser Smart Control” ด้วยเช่นกัน สามารถปรับแต่งเสียงหรือตั้งค่าอื่น ๆ ให้กับตัวหูฟังได้อีกหลายอย่างซึ่งผมรวบรวมไว้ให้แล้วดังนี้ 

 

✅ Connection Management : จัดการรายชื่ออุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อกับ Accentum หรือเลือกเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์แบบ Multi-Point ได้ 

 

✅ Equalizer : ปรับ EQ เพิ่มเติมได้โดยจะมีแถบให้ปรับเพิ่มและลดตามย่านเสียงได้ 5 Band หรือจะเลือกผ่าน Preset ได้ซึ่งมีให้เลือกถึง 6 แบบได้แก่ Rock, Pop, Dance, Hip Hop, Classical, Movie และ Jazz โดยมี Sound Mode ให้เลือกอีก 2 แบบ คือ Bass Boost และ Podcast เหมือนกับรุ่นพี่ Momentum 4 เลยล่ะครับ

 

✅ Sound Check : ระบบนี้จะเป็นแต่งแนวเสียงให้ตรงกับแนวที่เราชอบมากที่สุดโดยจะเป็นการสุ่มเลือกตัวอย่างเสียงขึ้นมาให้เราเลือกเสียงที่ถูกใจ เมื่อทำไปจนจบขั้นตอนก็จะได้แนวเสียงตามที่ต้องการเลยล่ะครับ

 

✅ Sound Zones : ตั้งค่าโซนการใช้งานเมื่อเราต้องออกจากสถานที่ต่าง ๆ หรือเมื่อไปถึงยังสถานที่ที่เรากำหนดไว้ระบบก็จะปรับตั้งค่าตัวหูฟังให้เราโดยอัตโนมัติตามที่เราได้กำหนดโซนเอาไว้นั่นเองครับ การใช้งานระบบนี้จะต้องเปิด Location GPS ระบุตำแหน่งให้กับแอปลิเคชันนี้ด้วยนั่นเอง

 

✅ Active Noise Cancellation : เมนูหลักสำหรับเลือกเปิด ANC หรือ Transparency เมนูย่อยสามารถเลือกเปิด Wind Noise Reduction หรือการลดเสียงลมปะทะไมค์ได้ และยังมีให้เลือกเปิด Auto Pause เมื่อเปิดใช้งาน Transparency จะให้หยุดเล่นเพลงหรือไม่

 

✅ Sidetone : เลือกปรับการได้ยินเสียงตัวเองขณะคุยโทรศัพท์ได้ว่าจะให้เสียงเข้าที่ 0% / 50% / 100%

 

✅ Auto Power Off : มีระบบปิดเครื่องให้เราโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีสัญญาณเสียงวิ่งเข้ามาที่ตัวหูฟัง โดยจะสามารถเลือกเวลาได้ดังนี้ 15 นาที, 30 นาที, 60 นาที หรือจะตั้งไม่ให้ตัวหูฟังปิดเองก็ได้เช่นกัน

 

✅ Tone & Voice Prompts : Sennheiser เปิดให้เลือกได้ว่าต้องการปิดเฉพาะเสียงพูดให้เหลือแค่เสียงสัญาณแจ้งเตือน หรือหากไม่ชอบทั้งสองอย่างก็สามารถปิดทั้งหมดได้เลยครับ

 

✅ Factory Reset & Update Firmware : เราสามารถที่กดคืนค่าโรงงานจากตัวแอปลิเคชั่นนี้ได้อย่างง่ายได้ทันที หรือเมื่อไหร่ที่มีเฟิร์มแวร์อัปเดตมาใหม่ก็จะมีให้เราทำการกดอัปเดตได้เช่นกันครับ

 

 

 

 

          สำหรับครั้งนี้ทาง Sennheiser ได้แสดงฝีไม้ลายมือในการจูนเสียงมาได้อย่างน่าทึ่งอีกครั้งแค่ได้ฟังแค่ไม่กี่นาทีก็หลงรักแล้วล่ะครับ เพราะ Accentum นั้นให้เบสที่ทุ้มมีมวลมาเป็นลูก ๆ คุมโซนย่านต่ำได้ดีไม่ชิดเสียงกลางจนเกินไปเป็นเบสที่เดินสวยฟังได้ทั้งเพลงช้าหวานซึ้งหรือเพลงเร็วโยกหัวหลุดก็ทำได้ดี

 

          เสียงนักร้องของค่ายนี้เราจะคุ้นเคยกันว่าเป็นเสียงร้องที่ฟังเพลิน อิมเมจเสียงลอยเด่น มีตัวมีตนเนื้อเสียงใหญ่ฟังจับคำร้องได้ชัดถ้อยชัดคำเชื่อว่าหลายท่านน่าจะคุ้นเคยกับเสียงนักร้องของ Sennheiser กันอยู่แล้ว อีกจุดที่ทำได้ดีไม่แพ้กันเลยก็คือเรื่องของเสียงเครื่องสายที่มาเป็นเส้นปัดขอบเก็บได้ลื่นหูและไม่พุ่งมาจิกหูหรือทำให้รู้สึกว่าเสียงแผดเลยล่ะครับ ซึ่งรวมถึงเสียงย่านสูงหรือเสียงแหลมของรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ฟังสบายทอดตัวดีโดยให้ความโปร่งอยู่แบบไม่รู้สึกทึบครับ

 

          มิติเวทีถือเป็นอีกส่วนที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้เพราะ Accentum นั้นมีมิติเสียงที่ดีทั้งด้านลึกและด้านกว้าง ต่างกันมีชั้นของเสียงเป็นของตัวเองไม่ทับซ้อนกัน ช่องไฟห่างกันอย่างพอดิบพอดี เหมาะกับการเป็นหูฟัง Full-Size ในพิกัดราคาครึ่งหมื่นที่ฟังเพลงอย่างจริงจังได้และเหมาะกับผู้ที่หลงไหลในเสียงสไตล์ Warm Tone เป็นอย่างยิ่งครับ 

 

 

 

 

          นับว่าเป็นหูฟังในกลุ่มราคาระดับ Mid-Range ที่คุณภาพดีทั้งเรื่องเสียงและฟีเจอร์การใช้งานเลยล่ะครับ และยิ่งคนที่เป็นแฟนของ Sennheiser อยู่แล้วรุ่นนี้คือตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าใช้งานเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว 

 

ทิ้งท้ายกันตรงนี้ด้วยสเปคของเจ้า Accentum ก็แล้วกันนะคร้าบ ^^ 

  • Bluetooth 5.2 (SBC, AAC, aptX™, aptX HD™) 
  • ใช้ Dynamic Driver 37mm
  • ไมโครโฟนภายนอก 2 ตัว ภายใน 2 ตัว
  • ฟังต่อเนื่องสูงสุด “50 ชั่วโมง” ขณะเปิด ANC 
  • ชาร์จเต็มภายใน 3 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็วเพียง 10 นาทีฟังต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ชั่วโมง
  • รองรับแอปพลิเคชัน Sennheiser Smart Control 
  • ฟังผ่านสาย USB ได้ที่ 16Bit/48kHz 
  • ไม่รองรับ AUX 

 

 

Sennheiser #Accentum #จากรุ่นบุกเบิกสู่รุ่นแห่งอนาคต #MunkongONLINE

คะแนนรีวิว

0 / 5

คะแนน

(ทั้งหมด 0 รายการ)
(0)
(0)
(0)
(0)
(0)

รีวิวจากลูกค้า

เรียงจาก

ถาม - ตอบทีมงาน



สินค้าใกล้เคียง